สาย คันเร่ง ค้าง
คันเร่งค้าง แม้เป็นเหตุการณ์ที่น้อยคนจะเคยเจอ แต่ส่งผลร้ายถึงชีวิตก็เป็นได้ ซึ่งมีเคสตัวอย่างแล้วทั้งในไทยและต่างประเทศ สาเหตุนั้นมีทั้งความบกพร่องของคนขับ หรือเกิดจากความผิดพลาดของอุปกรณ์ตัวรถ ไม่ว่าสภาพรถจะเก่าหรือใหม่ ก็เป็นได้หมด ดังนั้นเพื่อรับมือกับเหตุสุดวิสัยนี้ บทความคราวนี้จึงมาบอกวิธีแก้ไขสถานการณ์ ที่ใช้ได้ในกรณีที่คันเร่งค้างเท่านั้น ส่วนเบรกและระบบอื่น ๆ ยังใช้งานได้ปกติ พร้อมวิธีป้องกันคร่าว ๆ ซึ่งมีด้วยกันดังนี้ 1. เข้าเกียร์ว่าง เมื่อรู้ตัวว่ารถเกิดการเร่งขึ้นเองโดยไม่ตั้งใจ ให้รีบผลักเกียร์เข้าตำแหน่ง N โดยทันที หรือถ้าเป็นรถเกียร์ธรรมดา ก็ให้เข้าเกียร์ว่าง เพื่อเป็นการตัดกำลังเครื่องยนต์ออกจากล้อขับเคลื่อน จะได้ไม่มีความเร็วเพิ่มจากการค้างของคันเร่ง ปล่อยให้เครื่องยนต์เร่งรอบต่อไป ไม่ต้องกลัวว่ากลไกจะพัง เพราะเกียร์ออโต้สามารถผลักจาก D ไปยัง N ได้เลยโดยไม่ต้องกดปุ่ม และเครื่องยนต์รถสมัยนี้มีการตัดรอบไม่ให้สูงเกินไปแล้ว เกียร์ออโต้ สามารถผลักเข้า N ได้โดยไม่ต้องกดปุ่ม 2. ถอนเท้าจากแป้น เพื่อเป็นการป้องกันความผิดพลาดจากการเหยียบแป้นผิด ให้คนขับถอนเท้าออกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคลัตช์ เบรก หรือคันเร่ง ซึ่งในบางครั้ง การที่รถพุ่งเอง อาจจะเกิดจากคนขับเองตกใจ เหยียบแป้นผิดก็เป็นได้ ในกรณีคนขับมือใหม่ หรือยังไม่ชินรถยนต์ ถอนเท้าออกจากแป้นก่อน เพื่อตัดปัญหาคันเร่งค้างจากการเหยียบผิดแป้น 3.
สาเหตุของคันเร่งฝืด คันเร่งค้างและวิธีแก้ไข - YouTube
ความผิดพลาดจากมนุษย์หรือผู้ขับขี่เอง เช่น การใส่พรมเช็ดเท้าหลายชั้นมากเกินไป เมื่อใช้งานไปนานๆ อาจมีการขยับเลื่อนตัวไปด้านหน้ามากขึ้น จนเกิดเข้าไปติดขัดกับแป้นคันเร่งได้ อีกสาเหตุหนึ่งที่เคยมีกระแสดราม่าว่า ใส่รองเท้าส้นสูง แล้วขับรถ หรือ ถอดรองเท้าในขณะขับรถ ก็อาจเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เข้าไปติดขัดกับคันเร่งได้ ดังนั้นก่อนจะขับรถควรตรวจดูลักษณะพื้นหรือพรมในบริเวณแป้นคันเร่ง, เบรก หรือใต้เบาะคนขับว่ามีสิ่งของใดอยู่บ้าง ควรนำออกให้หมด วิธีปฏิบัติเมื่อคันเร่งค้าง (สำหรับรถเกียร์อัตโนมัติ) มีวิธีปฏิบัติง่ายๆ ตามขั้นตอนดังนี้ 1. ตั้งสติ ใจเย็นๆ และมองดูทางข้างหน้าไกลๆ ว่ามีช่องหรือเลนที่โล่งๆ หรือไม่ ให้พยายามควบคุมรถให้ไปในถนนที่โล่งเอาไว้ก่อน และมองรอบตัวรถว่ามีสิ่งกีดขวางอะไร 2. ปลดเกียร์ว่างไปที่ตำแหน่ง "N" เพื่อตัดการส่งกำลังไปที่ล้อ และให้ความเร็วลดลง 3. เบรกหรือชะลอความเร็วชิดขอบทางอย่างปลอดภัย ข้อห้ามไม่แนะนำให้ปฏิบัติคือ 1. ห้ามดับเครื่องยนต์เด็ดขาด เพราะเมื่อเครื่องยนต์ดับระบบช่วยผ่อนแรงหรือพวงมาลัยเพาเวอร์จะไม่ทำงาน ทำให้มีน้ำหนักมากและควบคุมทิศทางรถยากขึ้น 2. ขอเน้นอีกครั้งว่า "ห้ามดับเครื่องยนต์" เพราะระบบเบรกจำเป็นต้องใช้แรงดูดสูญญากาศจากท่อไอดีเครื่องยนต์ โดยการดูดอากาศจากหม้อลมเบรก เพื่อช่วยผ่อนแรงเมื่อเบรก หากไม่มีลมดูดนี้ เบรกจะแข็งสู้เท้าและเบรกไม่อยู่ ส่งผลให้เกิดอันตรายมากขึ้นจากการที่ไม่สามารถควบคุมรถได้ ดังนั้น หากใครที่เจอเหตุการณ์คันเร่งค้าง ก็สามารถปฏิบัติได้ง่ายๆ ไม่ต้องตกใจนะครับ "ตั้งสติ-ปลดเกียร์ว่าง-ชะลอความเร็ว" และที่สำคัญ "ขับขี่อย่างปลอดภัย และไม่ประมาทด้วยนะครับ"
คันเร่งค้าง!! อย่าตกใจ!! - Rstyle Racing
- เมื่อคันเร่งค้าง ต้องทำอย่างไร? - เช็คราคา รถยนต์-มอเตอร์ไซค์ใหม่ บ้าน-คอนโดใหม่ สินเชื่อ บัตรเครดิต มือถือ-แท็บเล็ตใหม่
- คันเร่งไฟฟ้า ค้าง!! มีโอกาสเกิดขึ้นได้หรือไม่
- คันเร่งค้าง!! อย่าตกใจ!! - Rstyle Racing
- ขาย samsung j6 plus the gioi di dong